วันที่ 16 มิถุนายน 2567

เรื่อง     ข้อเสนอในโอกาสวันแม่บ้านสากล

เรียน     ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

เนื่องด้วยมีการประกาศในเวทีการประชุมเรื่องอนุสัญญาว่าด้วยงานที่มีคุณค่าสำหรับลูกจ้างทำงานบ้าน ในที่ประชุมใหญ่องค์การแรงงานระหว่างประเทศสมัยที่ 100 เมื่อปี พ.ศ. 2554 ให้วันที่ 16 มิถุนายน เป็น วันแม่บ้านสากล  ซึ่งนับแต่นั้นมา ลูกจ้างทำงานบ้านหลายประเทศจะจัดกิจกรรมเพื่อรำลึกถึงการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในสังคมของลูกจ้างทำงานบ้าน เป็นการยกย่องและชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของลูกจ้างทำงานบ้าน รวมถึงสิทธิอันชอบธรรมที่ลูกจ้างทำงานบ้านสมควรจะได้รับในฐานะมนุษย์ที่มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับประชาชนคนกลุ่มอื่นๆ และที่สำคัญลูกจ้างทำงานบ้านเป็นกลุ่มแรงงานที่มีบทบาทเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างรายได้และเศรษฐกิจทั้งในระดับครัวเรือน และระบบเศรษฐกิจภาพรวม ซึ่งผู้คนในสังคมมักไม่เห็นแง่มุมในคุณค่าของลูกจ้างทำงานบ้านในด้านนี้

ปัจจุบันลูกจ้างทำงานบ้านยังไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกหลายเรื่อง อาทิ ลูกจ้างทำงานบ้านยังไม่สามารถเข้าถึงระบบประกันสังคมได้ และเมื่อประสบอุบัติเหตุจากการทำงานก็ไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายกองทุนเงินทดแทน นอกจากนี้ยังไม่สามารถรวมกลุ่มกันได้เพื่อสร้างอำนาจในการเจรจาต่อรองกับนายจ้างตามกระบวนการแรงงานสัมพันธ์

กลุ่มลูกจ้างทำงานบ้านจังหวัดเชียงใหม่ และมูลนิธิเพื่อสุขภาพและการเรียนรู้ของแรงงานกลุ่มชาติพันธุ์ จึงขอใช้โอกาส วันที่ 16 มิถุนายน ที่ถูกกำหนดให้เป็นวันแม่บ้านสากล  ยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล ดังนี้

  1. ขอให้รัฐบาลให้สัตยาบันแก่อนุสัญญาองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ ILO ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว อนุสัญญา ILO ฉบับที่ 98 ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัวและการเจรจาต่อรอง ฉบับที่ 189 ว่าด้วยสิทธิในการคุ้มครองลูกจ้างทำงานบ้าน และดำเนินการปรับปรุงกฎหมายหมาย กฎกระทรวง ระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อปกป้องคุ้มครอง และส่งเสริมสิทธิของลูกจ้างทำงานบ้านโดยเร็วที่สุด
  2. ขอให้รัฐบาลยกเลิกการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)จากผ้าอนามัย และต้องจัดให้มีการแจกผ้าอนามัยฟรีให้ผู้หญิงทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เพื่อแก้ปัญหาความจนประจำเดือน (Period Poverty) ที่ส่งผลเสียอย่างอื่นตามมา และกำหนดให้ลูกจ้างทำงานบ้านหญิงมีวันหยุดพิเศษเดือนละ 2 วันในช่วงที่มีประจำเดือน โดยได้รับค่าจ้าง
  3. ขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการออกกฎกระทรวงกำหนดให้ลูกจ้างทำงานบ้านอันมิได้มีการประกอบธุรกิจรวมอยู่ด้วยเข้าสู่ระบบประกันสังคม และได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายกองทุนเงินทดแทนอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ
  4. ขอให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานกำหนดแนวทางปฏิบัติให้มีการอบรมอาชีพแก่ลูกจ้างทำงานบ้าน โดยระหว่างที่อบรมพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีค่าเบี้ยเลี้ยงตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ และหลังจากที่จบการอบรมแล้วให้ออกใบรับรองการผ่านการพัฒนาฝีมือแรงงานที่สามารถนำไปใช้ในการปรับค่าจ้างตามระดับการพัฒนาฝีมือแรงงานได้

จึงเรียนมาด้วยความเคารพและโปรดพิจารณาดำเนินการโดยเร็ว

 

กลุ่มลูกจ้างทำงานบ้านจังหวัดเชียงใหม่

มูลนิธิเพื่อสุขภาพและการเรียนรู้ของแรงงานกลุ่มชาติพันธุ์