โครงการสนับสนุนการเข้าถึงสิทธิอย่างทั่วถึง (RFA) ภายใต้มูลนิธิ MAP ได้จัดงานสัมมนาการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแรงงานข้ามชาติหญิง ขึ้นในวันที่ 7 กันยายน 2568 ณ โรงแรมเชียงใหม่ แกรนด์วิว โดยมีผู้เข้าร่วม 42 คนจากชุมชน กลุ่ม และองค์กรพัฒนาเอกชนข้ามชาติจากทั่วประเทศไทย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พังงา ชลบุรี เชียงใหม่ แม่สอด และสมุทรปราการ
งานสัมมนาถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน ในช่วงเช้า ผู้เข้าร่วมแบ่งกลุ่มเพื่อพูดคุยเรื่องการเข้าถึงบริการและการคุ้มครองทางสังคม ซึ่งรวมถึงการดูแลสุขภาพ การศึกษา การประกันสังคม ที่อยู่อาศัย และความยุติธรรม
ส่วนที่สองมุ่งเน้นไปที่เอกสารส่วนบุคคลตามกฎหมาย โดยผู้เข้าร่วมได้แบ่งปันความท้าทายและแสดงบทบาทสมมติเพื่อเน้นย้ำถึงปัญหาจริงที่สอดคล้องกับคำเสนอแนะของ Global Compact on Migration (GCM) หรือข้อตกลงโลกว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานอย่างปลอดภัย
ในช่วงบ่าย ส่วนที่สามเน้นเรื่องการขจัดการเลือกปฏิบัติ โดยมีการอภิปรายเกี่ยวกับการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อลดการเลือกปฏิบัติในรูปแบบต่างๆ ในชุมชน
ส่วนสุดท้ายเป็นการพูดคุยเรื่องการโยกย้ายในสถานการณ์วิกฤต ซึ่งผู้เข้าร่วมได้ประเมินคำแนะนำของ GCM ให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสำหรับนโยบายแรงงานข้ามชาติในประเทศไทย และหารือเกี่ยวกับวิธีการทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงสถานการณ์และการปฏิบัติตามคำแนะนำในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ
การประชุมครั้งนี้ได้ช่วยให้การส่งเสียงของแรงงานข้ามชาติหญิงและประสบการณ์ของแรงงานข้ามชาติให้ดังขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าปัญหาและข้อเสนอแนะของพวกเธอจะถูกนำเสนอในการประชุมระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกว่าด้วยสตรีและการพัฒนากฎหมาย (APWLD) ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศเนปาลในเดือนตุลาคม 2568 สำหรับการทบทวนข้อตกลงโลกว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานอย่างปลอดภัยระหว่างประเทศครั้งที่จะมาถึง
ข้อเสนอแนะหลักได้แก่ การจัดตั้งบริการแบบเบ็ดเสร็จสำหรับการทำเอกสาร อนุญาตให้แรงงานข้ามชาติ (หรือโดยได้รับการสนับสนุนจากบุคคลไทย) สามารถจัดการใบอนุญาตทำงานและวีซ่าของตนเองได้แทนที่จะพึ่งพานายจ้างหรือนายหน้า การจัดหาล่ามในสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศาล การสร้างบัตร All-in-One เพื่อเข้าถึงบริการ การยอมรับการเทียบโอนหน่วยกิตทางโรงเรียนสำหรับเด็กข้ามชาติ การรับประกันการดูแลสุขภาพที่เท่าเทียมและราคาไม่แพง และการอนุญาตให้แรงงานข้ามชาติสามารถเปิดบัญชีธนาคารด้วยบัตรสีชมพู
แรงงานข้ามชาติคนหนึ่งได้พูดว่า:“การเข้าถึงบริการต่างๆ เป็นเรื่องยากมากสำหรับเรา เพราะต้องใช้เอกสารจำนวนมาก และบางเอกสารก็ใช้ขั้นตอนในการขอที่ซับซ้อน นอกจากนี้เรายังมีปัญหาในการใช้บริการธนาคาร เพราะบางธนาคารไม่รับบัตรสีชมพู”
แม่คนหนึ่งได้เสริมว่า:“โรงเรียนไทยแห่งหนึ่งปฏิเสธรับลูกชายอายุ 9 ขวบของฉัน ฉันเชื่อว่าเด็กทุกคนควรมีสิทธิ์เข้าเรียนโดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติตามอายุ ชาติพันธุ์ เชื้อชาติ หรือเอกสารแสดงตัวตน แม้นโยบายการศึกษาไทยจะเขียนไว้เช่นนั้น แต่ในความเป็นจริง บางโรงเรียนยังคงปฏิเสธเด็กข้ามชาติ”
มุมมองของแรงงานข้ามชาติหญิงมีความสำคัญในการกำหนดนโยบายที่มีส่วนร่วมและส่งเสริ่มทางเพศอย่างเท่าเทียมในชุมชนแรงงานข้ามชาติ